ฟรีดริช มีเชอร์ พบว่า ในนิวเคลียสมีสารที่มีธาตุไนโตรเจนและฟอสฟอรัสเป็นองค์ประกอบ คือ
กรดนิวคลิอิก
รอเบิร์ต ฟอยล์เกน พบว่า DNA อยู่ที่โครโมโซมจากการศึกษาการย้อมโครโมโซมด้วยสีฟุคซิน
เฟรเดอริก กริฟฟิท พบว่าเมื่อนำ�แบคทีเรียสายพันธุ์ S ที่ทำ�ให้เกิดโรคปอดบวม ไปทำ�ให้ตาย
ด้วยความร้อน แล้วนำ�ไปใส่ในอาหารเลี้ยงเชื้อพร้อมทั้งใส่แบคทีเรียสายพันธุ์ R ที่ไม่ทำ�ให้เกิดโรค
ปอดบวมลงไปด้วย พบว่ามีสารบางอย่างจากแบคทีเรียสายพันธุ์ S ที่ไปทำ�ให้แบคทีเรียสายพันธุ์ R
กลายเป็นสายพันธุ์ที่ทำ�ให้เกิดโรคและสามารถถ่ายทอดลักษณะนี้ไปสู่แบคทีเรียรุ่นต่อไปได้
ครูให้นักเรียนตอบคำ�ถามในหนังสือเรียน โดยศึกษาจากรูป 4.5 ซึ่งมีแนวการตอบดังนี้
ถ้าทำ�การทดลองเฉพาะชุดการทดลองที่ 3 และ 4 โดยที่ไม่มีชุดการทดลองที่ 1 และ 2 จะสามารถ
สรุปผลได้หรือไม่ เพราะเหตุใด
ไม่สามารถสรุปผลการทดลองได้ เพราะชุดการทดลองที่ 1 และ 2 เป็นชุดควบคุม (ชุดการทดลอง
ที่ 1 เป็น negative control และชุดการทดลองที่ 2 เป็น positive control)
ถ้านำ�เลือดของหนูจากชุดการทดลองที่ 2 และ 3 มาตรวจ จะพบแบคทีเรียหรือไม่ อย่างไร
พบแบคทีเรียในเลือดของหนูที่ตายของชุดการทดลองที่ 2 และไม่พบแบคทีเรียในหนูของชุด
การทดลองที่ 3
ในชุดการทดลองที่ 4 พบทั้งแบคทีเรียสายพันธุ์ S และสายพันธุ์ R ในเลือดของหนูที่ตาย
แบคทีเรียสายพันธุ์ใดที่ทำ�ให้หนูตาย เพราะเหตุใด
เมื่อพิจารณาชุดการทดลองที่ 1 และ 2 พบว่า ชุดการทดลองที่ 1 ฉีดแบคทีเรียสายพันธุ์ R ที่มี
ชีวิตให้หนู แล้วหนูไม่ตาย ส่วนชุดการทดลองที่ 2 ฉีดแบคทีเรียสายพันธุ์ S ที่มีชีวิตให้หนู แล้ว
หนูตาย ดังนั้นในชุดการทดลองที่ 4 ที่พบทั้งแบคทีเรียสายพันธุ์ S และสายพันธุ์ R แบคทีเรีย
ที่ทำ�ให้หนูตายจึงควรเเป็นแบคทีเรียสายพันธุ์ S เหมือนกับชุดการทดลองที่ 2
กริฟฟิทยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่า สารจากแบคทีเรียสายพันธุ์ S ที่ทำ�ให้ตายด้วยความร้อน
สามารถทำ�ให้แบคทีเรียสายพันธุ์ R เปลี่ยนแปลงเป็นสายพันธุ์ S คือสารอะไร จากนั้นนักวิทยาศาสตร์
ชาวอเมริกัน 3 คน คือ ออสวอลด์ แอเวอรี คอลิน แมคลอยด์ และแมคลิน แมคคาร์ที ทำ�การทดลอง
ต่อจากกริฟฟิท เพื่อตรวจสอบว่า DNA RNA หรือโปรตีนเป็นสารที่เปลี่ยนพันธุกรรมของแบคทีเรีย
จากสายพันธุ์ R ให้เป็นแบคทีเรียสายพันธุ์ S
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทที่ 4 | โครโมโซมและสารพันธุกรรม
ชีววิทยา เล่ม 2
11