การวิเคราะห์ตัวชี้วัด
แนวทางการจัดการเรียนรู้
แนวทางการวัดและประเมินตัวชี้วัด
๔. ครูใช้ผลการสังเกตซึ่งเป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ของนักเรียนทั้งชั้นและ
ใช้คำ�ถามเพื่อให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายและลงข้อสรุปว่าเมื่อทำ�ให้สสาร
ร้อนขึ้น สสารจะเปลี่ยนสถานะจากของแข็งเป็นของเหลว จากของเหลว
เป็นแก๊ส หรือจากของแข็งเป็นแก๊สโดยไม่ผ่านการเป็นของเหลว และ
เมื่อทำ�ให้สสารเย็นลง สสารจะเปลี่ยนสถานะจากแก๊สเป็นของเหลว
หรือของเหลวเป็นของแข็ง หรือจากแก๊สเป็นของแข็งโดยไม่ผ่านการเป็น
ของเหลว
๕. ครูให้ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการระบุชื่อการเปลี่ยนสถานะจากของแข็ง
เป็นของเหลว เรียกว่า การหลอมเหลว ของเหลวเปลี่ยนสถานะเป็นแก๊ส
เรียกว่า การกลายเป็นไอ ซึ่งมีทั้งการเดือดและการระเหย แก๊สเปลี่ยน
สถานะเป็นของเหลว เรียกว่า การควบแน่น ของเหลวเปลี่ยนสถานะ
เป็นของแข็งเรียกว่าการแข็งตัว ของแข็งเปลี่ยนสถานะเป็นแก๊ส เรียกว่า
การระเหิด ส่วนแก๊สเปลี่ยนสถานะเป็นของแข็ง เรียกว่า การระเหิดกลับ
๖. นักเรียนสำ�รวจเหตุการณ์หรือการเปลี่ยนแปลงที่เป็นการเปลี่ยนสถานะ
ของสสารในชีวิตประจำ�วัน เช่น การเกิดน้ำ�ค้าง การเกิดฝน การเกิดลูกเห็บ
การตากผ้า การทำ�ไอศกรีม การระเหิดของการบูร จากนั้นร่วมกันวิเคราะห์
การเปลี่ยนสถานะและระบุชื่อการเปลี่ยนสถานะ บันทึกผลและนำ�เสนอ
๗. ครูให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายและออกแบบวิธีการนำ�เสนอการเปลี่ยน
สถานะของสสารพร้อมระบุชื่อการเปลี่ยนสถานะโดยใช้ซอฟต์แวร์
ประยุกต์
ด้านทักษะ
ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
๑. ทักษะการสังเกต โดยสังเกตลักษณะของ
สสารที่เป็นของแข็ง ของเหลวและแก๊สและ
สังเกตการเปลี่ยนแปลงของสสารเมื่อทำ�ให้
ร้อนขึ้นหรือเย็นลง บันทึกสิ่งที่สังเกตได้
๒. ทักษะการหาความสัมพันธ์ระหว่างสเปซ
กับสเปซและสเปซกับเวลา โดยบรรยายการ
เปลี่ยนแปลงรูปร่างและปริมาตรของสสาร
เมื่อเปลี่ยนสถานะ
๓. ทักษะการจัดกระทำ�และสื่อความหมาย
ข้อมูลโดยนำ�ข้อสรุปการเปลี่ยนสถานะของ
สสารมาเขียนในรูปแบบต่าง ๆ
๔. ทักษะการลงความเห็นจากข้อมูล โดยการ
นำ�ข้อมูลที่ได้จากการสังเกตมาอธิบาย
การเปลี่ยนสถานะของสสาร
๕. ทักษะการตีความหมายข้อมูลและลงข้อสรุป
โดยการตีความหมายข้อมูลที่นำ�เสนอแล้ว
อภิปรายร่วมกันเพื่อลงข้อสรุปเรื่องการ
เปลี่ยนสถานะของสสาร
ด้านทักษะ
ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
๑. ประเมินทักษะการสังเกต จากผลการบันทึกลักษณะ
ของสสารที่เป็นของแข็ง ของเหลวและแก๊สและ
ผลการบันทึกการเปลี่ยนแปลงของสสารเมื่อทำ�ให้
ร้อนขึ้นหรือเย็นลงตามความเป็นจริง โดยไม่เพิ่ม
ความคิดเห็นส่วนตัว
๒. ประเมินทักษะการหาความสัมพันธ์ระหว่างสเปซ
กับสเปซและสเปซกับเวลา จากการบรรยายการ
เปลี่ยนแปลงรูปร่างและปริมาตรของสสารเมื่อเกิด
การเปลี่ยนสถานะได้ถูกต้อง
๓. ประเมินทักษะการจัดกระทำ�และสื่อความหมาย
ข้อมูล จากการนำ�ข้อสรุปการเปลี่ยนสถานะของ
สสารมาเขียนในรูปแบบต่าง ๆ ได้ถูกต้องครบถ้วน
และชัดเจน
๔. ประเมินทักษะการลงความเห็นจากข้อมูล จากการ
นำ�ข้อมูลที่ได้จากการสังเกตมาอธิบายการเปลี่ยน
สถานะต่าง ๆ ของสสารได้ถูกต้อง
๕. ประเมินทักษะการตีความหมายข้อมูลและลงข้อสรุป
จากการตีความหมายข้อมูลที่นำ�เสนอแล้วอภิปราย
ร่วมกันเพื่อลงข้อสรุปเรื่องการเปลี่ยนสถานะของ
สสารได้ถูกต้องและครบถ้วน
190