การวิเคราะห์ตัวชี้วัด
แนวทางการจัดการเรียนรู้
แนวทางการวัดและประเมินตัวชี้วัด
ตัวชี้วัด
๔. เปรียบเทียบจุดเดือด จุดหลอมเหลวของสารบริสุทธิ์และสารผสม โดยการวัดอุณหภูมิ เขียนกราฟ แปลความหมายข้อมูลจากกราฟ หรือสารสนเทศ
ด้านความรู้
สารบริสุทธิ์ประกอบด้วยสารเพียงชนิดเดียว ส่วน
สารผสมประกอบด้วยสารตั้งแต่ ๒ ชนิดขึ้นไป
สารบริสุทธิ์แต่ละชนิดมีสมบัติบางประการที่เป็น
ค่าเฉพาะตัว เช่น จุดเดือดและจุดหลอมเหลว
ซึ่งมีค่าคงที่ ณ ความดันหนึ่ง ๆ แต่สารผสมมี
จุดเดือดและจุดหลอมเหลวไม่คงที่ ขึ้นอยู่กับชนิด
และสัดส่วนของสารที่ผสมอยู่ด้วยกัน
ด้านทักษะ
ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
๑. ทักษะการวัด โดยใช้เทอร์มอมิเตอร์วัด
อุณหภูมิของสารบริสุทธิ์และสารผสมระหว่าง
ที่ได้รับความร้อน ที่ช่วงเวลาต่าง ๆ ที่เท่ากัน
๒. ทักษะการจัดกระทำ�และสื่อความหมาย
ข้อมูล โดยนำ�ผลการวัดอุณหภูมิที่เวลาต่างๆ
ของสารบริสุทธิ์และสารผสมมาแสดงความ
สัมพันธ์ในรูปของกราฟ
ด้านความรู้
เปรียบเทียบอุณหภูมิขณะเดือดหรือจุดเดือดและ
จุดหลอมเหลวของสารบริสุทธิ์และสารผสม
ด้านทักษะ
ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
๑. ประเมินทักษะการวัด จากการใช้เทอร์มอมิเตอร์วัด
อุณหภูมิของสารบริสุทธิ์และสารผสมระหว่างที่ได้
รับความร้อน ที่ช่วงเวลาต่าง ๆ ที่เท่ากัน พร้อมระบุ
หน่วยของการวัดอุณหภูมิและเวลาได้อย่างถูกต้อง
และเหมาะสม
๒. ประเมินทักษะการจัดกระทำ�และสื่อความหมาย
ข้อมูล จากการนำ�ผลการวัดอุณหภูมิที่เวลาต่าง ๆ
ของสารบริสุทธิ์และสารผสมมาแสดงความสัมพันธ์
ในรูปของกราฟได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม และ
ช่วยให้ผู้อื่นเข้าใจความหมายของข้อมูลได้อย่าง
รวดเร็ว และชัดเจน
๑. ครูทบทวนความรู้ของนักเรียนเกี่ยวกับสารผสมโดยให้นักเรียนยกตัวอย่าง
สารผสม และระบุสารที่เป็นองค์ประกอบของสารผสมนั้น เช่น น้ำ�เกลือ
ประกอบด้วยเกลือผสมกับน้ำ� น้ำ�โคลนประกอบด้วยโคลนผสมกับน้ำ�
๒. ครูตรวจสอบความรู้เดิมของนักเรียนเกี่ยวกับสารบริสุทธิ์โดยให้นักเรียน
อธิบายและยกตัวอย่างสารบริสุทธิ์ ครูใช้คำ�ถามให้นักเรียนเปรียบเทียบ
องค์ประกอบของสารบริสุทธิ์และสารผสม เช่น น้ำ�กับน้ำ�เกลือ น้ำ�กับ
น้ำ�โคลน
๓. ครูอธิบายเพิ่มเติมว่าสารที่ประกอบด้วยสารเพียงชนิดเดียว เรียกว่า
สารบริสุทธิ์ และให้นักเรียนยกตัวอย่างสารบริสุทธิ์
๔. ครูแสดงตัวอย่างสาร ๓ ชนิด มีหมายเลข ๑ - ๓ ให้นักเรียนสังเกต
ลักษณะที่สังเกตได้โดยไม่ได้บอกให้ทราบว่าสารแต่ละชนิดเป็นสารอะไร
สารตัวอย่างที่ครูนำ�มาแสดงควรประกอบด้วย สารหมายเลข ๑ เป็น
สารผสมที่เห็นสารสองชนิดผสมกันอย่างชัดเจนเช่น น้ำ�กับน้ำ�มัน
สารหมายเลข ๒ เป็นสารบริสุทธิ์ เช่น น้ำ� และสารหมายเลข ๓ เป็นสาร
ผสมที่ไม่สามารถเห็นสารสองชนิดผสมกัน เช่น สารละลายเอทานอล
ครูใช้คำ�ถามให้นักเรียนวิเคราะห์ว่าสารหมายเลขใดเป็นสารบริสุทธิ์ และ
สารหมายเลขใดเป็นสารผสม พร้อมให้เหตุผล
๕. ครูร่วมกับนักเรียนอภิปรายผลการวิเคราะห์เพื่อลงข้อสรุปว่าสารบาง
ชนิดเมื่อสังเกตจากลักษณะภายนอกสามารถระบุได้ว่าเป็นสารผสม เช่น
สารหมายเลข ๑ เพราะเห็นชัดเจนว่ามีสารต่างชนิดแยกส่วนจากกัน
ส่วนสารบางชนิดไม่สามารถระบุได้ทันทีว่าเป็นบริสุทธิ์หรือสารผสม เช่น
สารหมายเลข ๒ สารหมายเลข ๓ เนื่องจากไม่มีการแยกส่วนกันของสาร
103
วิทยาศาสตร์
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑