Table of Contents Table of Contents
Previous Page  341 / 367 Next Page
Information
Show Menu
Previous Page 341 / 367 Next Page
Page Background

การวิเคราะห์ตัวชี้วัด

แนวทางการจัดการเรียนรู้

แนวทางการวัดและประเมินตัวชี้วัด

ด้านทักษะ

ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์

๑. ทักษะการสังเกต โดยสังเกตผลการหักเหของ

แสงและการกระจายแสงเมื่อแสงเคลื่อนที่

ผ่านตัวกลางโปร่งใสที่แตกต่างกัน

๒. ทักษะการวัด โดยใช้อุปกรณ์วัดมุมพร้อม

ระบุหน่วยของการวัด

๓. ทักษะการจัดกระทำ�และสื่อความหมาย

ข้อมูล โดยการออกแบบตารางบันทึกผล

และการนำ�เสนอข้อมูลในรูปแบบที่แตกต่าง

กันเกี่ยวกับการหักเหของแสง การเกิดภาพ

จากเลนส์บางและการกระจายแสงเมื่อแสง

เคลื่อนที่ผ่านตัวกลางโปร่งใสที่แตกต่างกัน

๔. ทักษะการลงความเห็นจากข้อมูล โดย

การนำ�หลักฐานเชิงประจักษ์จากการปฏิบัติ

กิจกรรมมาอธิบายเกี่ยวกับการหักเหและผล

ของการหักเหของแสง

๕. ทักษะการตีความหมายข้อมูลและลงข้อสรุป

โดยทำ�ความเข้าใจข้อมูลที่บันทึกได้เพื่อลง

ข้อสรุปเกี่ยวกับการหักเหของแสง การเกิด

ภาพจากเลนส์บางและการกระจายแสง

เมื่อแสงเคลื่อนที่ผ่านตัวกลางโปร่งใสที่

แตกต่างกัน

๖. ทักษะการสร้างแบบจำ�ลอง โดยการเขียน

แผนภาพการเคลื่อนที่ของแสงเพื่อแสดงการ

เกิดภาพจากเลนส์บาง

ด้านทักษะ

ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์

๑. ประเมินทักษะการสังเกต จากผลการบันทึกข้อมูล

เกี่ยวกับการหักเหของแสงและการกระจายแสงเมื่อ

แสงเคลื่อนที่ผ่านตัวกลางโปร่งใสที่แตกต่างกันได้

ครบถ้วน ตามความเป็นจริงโดยไม่เพิ่มความคิดเห็น

ส่วนตัว

๒. ประเมินทักษะการวัด จากการใช้อุปกรณ์วัดมุม

พร้อมระบุหน่วยของการวัดได้ถูกต้อง

๓. ประเมินทักษะการจัดกระทำ�และสื่อความหมาย

ข้อมูล จากการออกแบบตารางบันทึกผลและ

การนำ�เสนอข้อมูลในรูปแบบที่แตกต่างกันเกี่ยวกับ

การหักเหของแสง การเกิดภาพจากเลนส์บางและ

การกระจายแสงเมื่อแสงเคลื่อนที่ผ่านตัวกลาง

โปร่งใสที่แตกต่างกัน

๔. ประเมินทักษะการลงความเห็นจากข้อมูล จาก

การนำ�หลักฐานเชิงประจักษ์จากการปฏิบัติกิจกรรม

มาอธิบายเกี่ยวกับการหักเหและผลของการหักเห

ของแสงได้อย่างสมเหตุสมผล

๕. ประเมินทักษะการตีความหมายข้อมูลและลง

ข้อสรุป จากการทำ�ความเข้าใจข้อมูลที่บันทึกได้เพื่อ

ลงข้อสรุปเกี่ยวกับการหักเหของแสง การเกิดภาพ

จากเลนส์บางและการกระจายแสงเมื่อแสงเคลื่อนที่

ผ่านตัวกลางโปร่งใสที่แตกต่างกันได้อย่างถูกต้อง

๖. ประเมินทักษะสร้างแบบจำ�ลองจากการเขียน

แผนภาพการเคลื่อนที่ของแสงเพื่อแสดงการเกิด

ภาพจากเลนส์บางได้ถูกต้อง

๖. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับการเกิดภาพและชนิดของภาพ

เพื่อลงข้อสรุปว่าภาพที่เกิดจากหักเหเมื่อแสงผ่านตัวกลางโปร่งใสที่แตก

ต่างกันเกิดจากรังสีหักเหตัดกันหรือต่อแนวรังสีหักเหให้ตัดกัน โดยถ้ารังสี

หักเหตัดกันจริง จะเกิดภาพจริงซึ่งจะปรากฏบนฉากได้ แต่ถ้าต่อแนวรังสี

หักเหให้ไปตัดกันจะเกิดภาพเสมือนซึ่งจะไม่สามารถปรากฏบนฉากได้

๗. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายถึงการนำ�ความรู้เกี่ยวกับการหักเหของ

แสงและการสะท้อนกลับหมดไปใช้ในชีวิตประจำ�วัน เช่น การมองเห็น

ตำ�แหน่งของปลาในน้ำ�ไม่ตรงกับตำ�แหน่งที่แท้จริง การทำ�ใยแก้วนำ�แสง

๘. นักเรียนตั้งคำ�ถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับภาพที่เกิดจากการหักเหของแสงผ่าน

เลนส์บาง เพื่อนำ�ไปสู่การทำ�กิจกรรมเพื่อสังเกตการหักเหของแสงผ่าน

เลนส์บางและการเกิดภาพ

๙. นักเรียนปฏิบัติกิจกรรม สังเกต บันทึกผล สรุป และนำ�เสนอ

๑๐. นักเรียนร่วมกันอภิปรายโดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ เพื่อลงข้อสรุปว่า

• การหักเหของแสงผ่านเลนส์นูนทำ�ให้เกิดภาพจริงซึ่งอาจจะมีขนาด

เล็กกว่า เท่ากับ หรือใหญ่กว่า ขนาดของวัตถุ นอกจากเกิดภาพจริงแล้ว

ยังอาจเกิดภาพเสมือนขนาดใหญ่กว่าวัตถุด้วย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับตำ�แหน่ง

ของวัตถุ

• การหักเหของแสงผ่านเลนส์เว้าทำ�ให้เกิดภาพเสมือนขนาดเล็กกว่า

ขนาดของวัตถุ

๑๑. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับวิธีการเขียนแผนภาพ

การเคลื่อนที่ของแสงโดยใช้หลักการหักเหของแสงเพื่อแสดงและ

อธิบายการเกิดภาพจากเลนส์บาง

๑๒. นักเรียนเขียนแผนภาพการเคลื่อนที่ของแสงจากเลนส์บาง เมื่อวางวัตถุ

ที่ตำ�แหน่งต่าง ๆ หน้าเลนส์บางทั้งเลนส์นูนและเลนส์เว้า นำ�เสนอ

331

วิทยาศาสตร์

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓